ชนาธิป สรงกระสินธ์
สิบตำรวจตรี ชนาธิป สรงกระสินธ์ ชื่อเล่น เจ หรือเป็นที่รู้จักในฉายา เมสซี่เจ เกิดวันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2536 เป็นนักฟุตบอลชาวไทยของเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด
ชนาธิปเป็นนักเตะที่อายุน้อยที่สุดของ ทีมชาติไทย ที่ วินเฟรด เชเฟอร์ เรียกตัวเข้าไปในการแข่งขัน เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2012 โดยได้ตำแหน่งรองแชมป์ และเป็นหนึ่งในผู้เล่น ทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ที่ได้เหรียญทองในซีเกมส์ 2013 ที่ ประเทศพม่า รวมถึงได้อันดับ 4 การแข่งขันเอเชียนเกมส์ 2014 ที่ประเทศเกาหลีใต้ และเป็นนักฟุตบอลทีมชาติไทยชุดคว้าแชมป์เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2014
ประวัติ
ชนาธิป สรงกระสินธ์ เกิดเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2536 ที่ตลาดสามพราน อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม เป็นบุตรชายของนายก้องภพและนางพรสวรรค์ สรงกระสินธ์ โดยบิดาเป็นผู้สอนให้เล่นฟุตบอลตั้งแต่อายุได้ 4 ขวบ และเริ่มต้นเล่นฟุตบอลอย่างจริงจังในขณะศึกษาอยู่ในชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่โรงเรียนกีฬากรุงเทพมหานคร จากนั้นได้ย้ายมาศึกษาต่อในชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่โรงเรียนเพ็ญสมิทธิ์จนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
หลังจบชั้นประถมศึกษา ชนาธิปกลับจังหวัดนครปฐมเพื่อศึกษาต่อในชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นที่โรงเรียนสามพรานวิทยา ในช่วงนี้เขาได้เล่นฟุตบอลเดินสายกับทีม ซีแอล ไฮสปีด ซึ่งเป็นทีมฟุตบอลเดินสายชื่อดังในจังหวัดนครปฐม ร่วมกับรัชพล นาวันโน ที่ภายหลังกลายเป็นนักฟุตบอลทีมชาติไทยอีกคนหนึ่ง
หลังจบชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ชนาธิปได้ศึกษาต่อในสาขาวิชาการตลาด ที่วิทยาลัยเทคโนโลยีพาณิชยการราชดำเนิน และเล่นฟุตบอลในระดับนักเรียนให้กับสถาบันไปด้วย โดยช่วยให้พาณิชยการราชดำเนินคว้าแชมป์ฟุตบอลนักเรียนกรมพลศึกษารุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี ประเภท ก. ได้ในเดือนมกราคม พ.ศ. 2554
ในอดีต ชนาธิป สรงกระสินธ์ ได้เคยศึกษาอยู่ที่คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แต่เมื่อต้นปี พ.ศ. 2558 เขาได้ทำเรื่องย้ายคณะและไปศึกษาต่อที่ คณะสหเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และรับราชการตำรวจ
ชีวิตส่วนตัว
ชนาธิป คบหาดูใจกับ ดาราสาวรุ่นพี่ พิชญ์นาฏ สาขากร
ทีมชาติ
ชุดเยาวชนอายุไม่เกิน 20 ปี
ชนาธิปลงเล่นในระดับชาติให้กับทีมชาติไทยเป็นครั้งแรก ในรายการฟุตบอลเยาวชนอายุ 19 ปีชิงแชมป์เอเชีย 2012 ในรอบคัดเลือกที่ไทยเป็นเจ้าภาพ ภายใต้การคุมทีมของสมชาย ชวยบุญชุม โดยรอบคัดเลือกไทยถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มอี ร่วมกับทีมเยาวชนอายุไม่เกิน 20 ปีของเกาหลีใต้, ญี่ปุ่น, ไต้หวัน และ กวม
ชนาธิป ลงสนามในนัดแรกของการแข่งขันรอบคัดเลือก วันที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2554 ในเกมส์ที่ทีมชาติไทยชนะเกาหลีใต้ 1-0 ที่สนามเทพหัสดิน โดยถือเป็นการลงเล่นให้ทีมชาติไทยในระดับเยาวชนเป็นครั้งแรกของเจ้าตัวด้วย และมายิงได้ 1 ประตู ในเกมส์ถล่มทีมชาติทีมชาติกวม 13-0 เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 โดยการแข่งขันในรอบคัดเลือก ชนาธิป สรงกระสินธ์ ทำผลงานกับทีมชาติไทยชุดอายุ 20 ปี ได้อย่างยอดเยี่ยมสามารถคว้าแชมป์กลุ่มได้สำเร็จ ด้วยการชนะทีมชาติเกาหลีใต้ 1-0, ชนะไต้หวัน 1-0, ชนะกวม 13-0 และเสมอญี่ปุ่น 0-0 ได้เข้าไปเล่นในรอบสุดท้ายในฐานะแชมป์กลุ่ม
โดยในการแข่งขันฟุตบอลเยาวชนอายุ 19 ปีชิงแชมป์เอเชียรอบสุดท้ายที่ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ไทยอยู่ในกลุ่ม บี ร่วมกับเกาหลีใต้, จีน และอิรัก ซึ่งการแข่งขันทั้ง 3 นัด จะแข่งที่สนามกีฬาฟูไจราห์ คลับ เมืองฟูไจราห์ โดยไทยลงแข่งขันนัดแรกกับทีมชาติจีน ในวันที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 ชนาธิป สามารถผ่านบอลให้ วรนาถ ทองเครือ เข้าไปยิงประตูได้ และช่วยให้ทีมชาติไทยเอาชนะจีนไปได้ 2-1 ต่อมาในการแข่งขันกับทีมชาติเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน ไทยกลับแพ้ไป 1-2 และการแข่งขันนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่มเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน ไทยแพ้อิรักไป 0-3 ตกรอบไปในที่สุด
ชุดเยาวชนอายุไม่เกิน 23 ปี
เดือนธันวาคม พ.ศ. 2556 ซิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ได้เรียกชนาธิปที่ขณะนั้นเคยเล่นให้ทีมชาติชุดใหญ่มาแล้วในยุคของวินฟรีด เชเฟอร์ มาเป็นหนึ่งในผู้เล่นทีมชาติไทยชุดอายุไม่เกิน 23 ปี ในแข่งขันซีเกมส์ 2013 ที่กรุงเนปยีดอประเทศพม่า
โดยชนาธิป ลงเล่นในซีเกมส์เป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2556 ในการแข่งขันนัดแรกของรอบแบ่งกลุ่มที่ทีมชาติไทย เอาชนะ ทีมชาติติมอร์-เลสเต ไป 3-1 โดยถูกเปลี่ยนตัวลงมาแทน ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ในช่วง 25 นาทีสุดท้าย ซึ่งในการแข่งขันซีเกมส์ 2013 นี้ ชนาธิป รับบทบาทเป็นผู้เล่นตัวสำรองที่มักจะถูกส่งลงสนามเพื่อสร้างสรรค์เกมส์รุกในช่วงครึ่งหลังอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งสามารถทำผลงานได้อย่างดี โดยได้เล่นเป็นตัวจริง 1 นัด ในเกมส์ที่เสมอกับทีมชาติกัมพูชา 0-0 และสามารถช่วยให้ทีมชาติไทยผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศได้สำเร็จ
ในนัดชิงชนะเลิศ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ต้องพลาดโอกาสในการลงแข่งกับทีมชาติอินโดนีเซีย เนื่องจากได้รับบาดเจ็บบริเวณหน้าแข้ง แต่ทีมชาติไทยก็เอาชนะไปได้ 1-0 คว้าเหรียญทองไปครองได้สำเร็จ
ทีมชาติชุดใหญ่
ชนาธิป ได้ลงสนามให้ทีมชาติไทยชุดใหญ่เป็นครั้งแรกในการแข่งขันนัดอุ่นเครื่องกับทีมชาติภูฏาน เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 ที่สนามไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง
โดยถูกเปลี่ยนตัวลงมาในครึ่งหลังและทำให้ทีมชาติไทยชนะไป 5-0
จากนั้น วินฟรีด เชเฟอร์ ได้คัดเลือกให้เป็นหนึ่งในผู้เล่นชุดเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2012 โดยชนาธิปเป็นผู้เล่นที่มีอายุน้อยที่สุดภายในทีม และได้ลงสนามในรายการนี้เป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 ที่ทีมชาติไทยพบกับทีมชาติเวียดนาม ในรอบแบ่งกลุ่ม โดยถูกเปลี่ยนตัวลงมาเล่นแทน ปิยพล บรรเทา ที่มีอาการบาดเจ็บ (จบเกมส์ไทยชนะ 3-1) จากนั้นเขามีโอกาสลงสนามอีกครั้งหนึ่งในนัดชิงชนะเลิศนัดที่ 2 พบกับทีมชาติสิงคโปร์ ชนาธิปมีโอกาสเลี้ยงกระชากหนีนักเตะสิงคโปร์และยิงประตูหนึ่งครั้ง แต่ไม่สำเร็จ และได้รองแชมป์ในที่สุด
พ.ศ. 2556 ได้เล่นในฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 42 ปี พ.ศ. 2556 ที่จัดขึ้นที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีทีมที่เข้าร่วมแข่งขันคือเกาหลีเหนือ, สวีเดน และฟินแลนด์
ในการแข่งขันนัดแรกที่ทีมชาติไทยพบทีมชาติฟินแลนด์ เมื่อวันที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2556 ที่สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี ชนาธิป ลงเล่นเป็นตัวจริง แต่จบด้วยการแพ้ฟินแลนด์ 1-3 ทำให้ต้องชิงที่ 3 กับเกาหลีเหนือ โดยการแข่งขันนัดชิงที่ 3 ในวันที่ 26 มกราคม ชนาธิปลงเล่นเป็นตัวจริงอีกครั้ง ก่อนจะเสมอกันไป 2-2 คว้าอันดับ 3 ร่วมไปครอง
ในการแข่งขันฟุตบอลเอเชียนคัพ 2015 รอบคัดเลือก ไทยอยู่ร่วมสายกับ อิหร่าน คูเวต และเลบานอน นัดแรก 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 ไทยเปิดสนามราชมังคลากีฬาสถาน พบกับ ทีมชาติคูเวต ชนาธิป มีชื่อเป็นตัวสำรองและได้ลงสนามแทน จักรพันธ์ พรใส ในนาทีที่ 72 ถัดจากนั้น 3 นาที ชนาธิปสามารถทำประตูตีไข่แตกได้ และจบเกมส์ไทยเปิดบ้านแพ้คูเวตไป 1-3 โดยประตูดังกล่าวถือว่าประตูแรกของชนาธิป ในการเล่นให้กับทีมชาติชุดใหญ่
ชนาธิป เป็นตัวหลักในยุคของซิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือที่รับหน้าที่กุนซือขัดตาทัพสำหรับทีมชาติชุดใหญ่แทนวินฟรีด เชเฟอร์ โดยซิโก้ประเดิมคุมทีมชาติชุดใหญ่เมื่อ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2556 โดยได้นำนักเตะชุดซีเกมส์ 2013ไปอุ่นเครื่องกับทีมชาติจีน และถล่มทีมชาติจีนคาบ้านถึง 5-1 โดยชนาธิปเป็นหนึ่งในผู้ทำประตูด้วย
ในการแข่งขันเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2014 ชนาธิปเล่นได้อย่างโดดเด่น และเป็นผู้เล่นที่ถูกจับตามองในการแข่งขันครั้งนี้ ในนัดชิงชนะเลิศที่ไทยพบกับ มาเลเซีย ทางมาเลเซียระบุว่าชนาธิปเป็น 1 ใน 3 ผู้เล่นของไทยที่ต้องระวัง (อีก 2 คน คือ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ และ ชาริล ชับปุยส์) ในการแข่งขันนัดชิงชนะเลิศนัดที่ 2 ที่ไทยเป็นฝ่ายแพ้ไป 3-2 แต่โดยผลการแข่งขันรวมแล้ว ไทยชนะไป 4-3 ชนาธิปเป็นผู้ยิงประตูที่ 2 ให้กับไทยได้ในนาทีที่ 86 จากลูกยิงนอกเขตโทษ ทำให้ไทยได้แชมป์รายการนี้ไปเป็นสมัยที่ 4 และเป็นแชมป์ครั้งแรกในรอบ 12 ปี นอกจากแล้ว ชนาธิป ยังได้รางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมในรายการนี้ไปอีกด้วย
มาวิดีโอการเล่นของ ชนาธิป สรงกระสินธ์